[et_pb_section fb_built=”1″ _builder_version=”3.0.47″ custom_padding=”54px|0px|3px|0px|false|false”][et_pb_row _builder_version=”3.0.48″ background_size=”initial” background_position=”top_left” background_repeat=”repeat”][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.47″][et_pb_text _builder_version=”3.21.2″ text_font=”Kanit||||||||” header_font=”Kanit|700|||||||” header_text_align=”center” header_text_color=”#1364fe” header_font_size=”48px” header_font_size_tablet=”36px” header_font_size_phone=”20px” header_font_size_last_edited=”on|phone” text_orientation=”center”]
ขั้นตอน เคลมประกัน เคลมรถ แบบง่าย ๆ
ชนแบบไหน.. รับรองว่าเอาอยู่ !
[/et_pb_text][et_pb_image src=”https://24warrant.com/wp-content/uploads/2019/04/ขั้นตอนเคลมประกันรถแบบง่าย-ๆ.jpg” align=”center” _builder_version=”3.21.4″][/et_pb_image][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section][et_pb_section fb_built=”1″ _builder_version=”3.21.4″][et_pb_row _builder_version=”3.21.4″][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.21.4″][et_pb_divider color=”#ff8f00″ divider_weight=”3px” _builder_version=”3.21.4″ max_width=”10%”][/et_pb_divider][et_pb_text _builder_version=”3.21.4″ text_font=”||||||||” text_font_size=”18px” header_font=”Kanit||||||||” header_text_color=”#2970fa” header_2_font=”Kanit||||||||” header_2_text_color=”#2970fa” custom_margin=”-10px||”]
เคลมประกัน
เคลมประกัน คือ การแจ้งเคลมรถคันที่ทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ การเคลมประกันรถยนต์ ในปัจจุบันจะแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ เคลมประกันแบบมีคู่กรณี และ เคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณี
ซึ่งประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท ก็จะมีลักษณะการเคลมประกันรถที่แตกต่างออกไปตามประเภทกรมธรรม์ภาคสมัครใจที่ทำเอาไว้
เช่น ถ้าทำประกันชั้น1 ก็จะสามารถ เคลมประกันรถ ได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด แต่กลับกัน.. หากเลือกซื้อประกันรถยนต์ประเภทอื่น ๆ ก็จะเคลมประกันได้ตามเงื่อนไขความคุ้มครองที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยเท่านั้น !
ตัวอย่างเหตุการเคลมประกันแบบมีคู่กรณี เช่น ขับรถชนรถยนต์ ขับรถชนรถมอเตอร์ไซค์
ตัวอย่าง เคลมประกันไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถถอยชนสิ่งที่ไม่มีชีวิต ชนเสา ชนต้นไม้ ชนประตู ฯลฯ
[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”3.21.4″][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.21.4″][et_pb_divider color=”#ff8f00″ divider_weight=”3px” _builder_version=”3.21.4″ max_width=”10%”][/et_pb_divider][et_pb_text _builder_version=”3.21.4″ text_font=”||||||||” text_font_size=”18px” header_font=”Kanit||||||||” header_text_color=”#2970fa” header_2_font=”Kanit||||||||” header_2_text_color=”#2970fa” header_3_font=”Kanit||||||||” header_3_text_color=”#1364fe” custom_margin=”-10px||”]
การเคลมประกัน
การเคลมประกัน เป็นสิทธิ์ที่คนทำประกันภัยรถยนต์ทุกคนจะต้องได้รับ ตามเงื่อนไขความคุ้มครองที่ตนเองเลือกทำประกันรถยนต์เอาไว้ หากยังสงสัยว่าประกันรถยนต์ภาคสมัครใจแต่ละประเภทที่ตนเองทำไว้ คุ้มครองอะไรบ้าง สามารถเลือกอ่านความคุ้มครองได้ที่นี่ ก่อนทำเรื่องการเคลมประกันรถยนต์
- ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง ?
- ประกันรถยนต์2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ?
- ประกันรถยนต์3+ คุ้มครองอะไรบ้าง ?
- ประกันรถยนต์ชั้น3 คุ้มครองอะไรบ้าง ?
ประเภทการเคลมประกัน
การเคลมประกัน จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ เคลมสด และ เคลมแห้ง
การเคลมสด
เคลมสด เป็นการแจ้งเคลมประกันโดยทันที ณ จุดเกิดเหตุ ต้องมีหลักฐาน รูปถ่าย ของความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงยังต้องมีคู่กรณีอยู่ ณ จุดเกิดเหตุด้วย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูก หรือ ฝ่ายผิดก็ตาม
บางครั้ง.. การเคลมสด อาจจะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก ตามเงื่อนไขของบริษัทประกันภัย ที่ได้ระบุเอาไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์
การเคลมแห้ง
เคลมแห้ง เป็นการเคลมประกันหลังจากที่รถยนต์ได้รับความเสียหายมานานแล้ว หมายความว่า ไม่ได้เคลมประกันแบบทันที ณ จุดเกิดเหตุ ส่วนมากแล้วการเคลมแห้ง มักจะเป็นความเสียหายแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น เคลมประกันรอบคัน จากร่องรอยขีดข่วน ฯลฯ ซะมากกว่า
[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”3.21.4″][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.21.4″][et_pb_divider color=”#ff8f00″ divider_weight=”3px” _builder_version=”3.21.4″ max_width=”10%”][/et_pb_divider][et_pb_text _builder_version=”3.21.4″ text_font=”||||||||” text_font_size=”18px” header_font=”Kanit||||||||” header_text_color=”#2970fa” header_2_font=”Kanit||||||||” header_2_text_color=”#2970fa” custom_margin=”-10px||”]
ขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์
1. เตรียมเอกสารกรมธรรม์ให้เรียบร้อย โดยโทรแจ้งบริษัทประกันภัยที่ทำประกันรถยนต์ด้วย พร้อมกับแจ้ง ชื่อ สกุล ทะเบียนรถ หมายเลขกรมธรรม์ สถานที่เกิดเหตุ พร้อมกับชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนัน้ก็รอเจ้าหน้าเคลมประกัน มายังจุดเกิดเหตุ
2. ระหว่างที่กำลังรอเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันภัย ควรเตรียมเอกสารต่าง ๆ เช่น สำเนาทะเบียนรถ กรมธรรม์ประกันภัย ใบขับขี่ ให้พร้อม เพื่อที่เวลาเจ้าหน้าที่มาถึง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาควานหาเอกสารนั่นเอง
3. หลังจากเจ้าหน้าที่มาถึงจุดเกิดเหตุ เมื่อตรวจสอบรายละเอียดเรียบร้อย เจ้าหน้าที่เคลมประกัน ก็จะออก ใบเคลมประกัน ให้กับเรา เพื่อนำไปใช้ในการจัดซ่อมรถยนต์ที่ศุนย์บริการ หรือ อู่ในเครือบริษัทประกันภัย
4. นำรถเข้า เคลมประกัน เพื่อซ่อมตามศูนย์ หรือ อู่บริการในเครือบริษัทประกันภัยได้เลย การนำรถเข้าซ่อมตามศูนย์บริการหรืออู่ในเครือประกัน จะช่วยให้เราไม่ต้องเสียเงินค่าซ่อมรถยนต์ ต่างกันกับการนำรถไปจัดซ่อมที่อุ่นอกเครือประกัน แบบนี้.. เราจะต้องควักเงินจ่ายค่าซ่อมเอง
เห็นมั้ยล่ะ ขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์ ไม่ได้ยุ่งยาก ซับซ้อนเลยสักนิด ต่อมา.. ลองมาดูเอกสาร เคลมประกัน ที่จำเป็นต้องใช่เมื่อต้องการเคลมประกันภัยรถยนต์กันค่ะ
เอกสารเคลมประกันรถยนต์
1. สำเนาบัตรประชาชน
2. สำเนา Pasport หนังสือเดินทาง (ใช้ในกรณีที่เจ้าของรถยนต์เป็นคนต่างประเทศ)
3. สำเนาใบอนุญาตขับขี่
4. สำเนาหน้าตารางกรมธรรม์
สิ่งสุดท้ายที่อยากจะแนะนำเกี่ยวกับการ เคลมประกัน ทางที่ดีไม่ควรปล่อยระยะเวลาการเคลมประกันไว้นานเกินไป เพราะเผลอ ๆ ใบเคลมประกันอาจจะหมดอายุได้ ควรเลือกใช้บริการเคลมประกันที่ศูนย์บริการ หรือ อู่ในเครือบริษัทประกันภัยโดยตรง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่าซ่อมรถไปก่อนนั่นเอง นอกจากนี้ ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่มายังจุดเกิดเหตุ ตัวเจ้าของรถยนต์ก็ควรถ่ายรูปเหตุการณ์เก็บเอาไว้เป็นหลักบานด้วย เพื่อป้องกันปัญหาการปฏิเสธความรับผิดชอบของคู่กรณี ของแบบนี้ กันไว้ดีกว่าแก้เถอะ สบายใจกว่า
[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]